Cute Unicorn

วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 5


'หมอพาย' นพ.ดัง แจ้ง ปอท. ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน5 หมื่น






"หมอพาย" นายแพทย์ชื่อดัง โรงพยาบาลตำรวจ เจ้าของหนังสือชื่อ 'หมอเจ็บ' เข้าแจ้งความ ถูกหลอกลวงโอนเงินกว่า 5 หมื่นบาท หลังประกาศขายกระเป๋าหรู ทางเว็บดัง และมีการโอนเงินผ่าน PayPal ... เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ก.ค. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) พ.ต.อ.นพ.ปิยพงษ์ สาครเย็น นายแพทย์ (สบ4) กลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ อายุ 40 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ติดต่อขอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมจากตัวเองที่ประกาศขายผ่านทางเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ในราคา 122,000 บาท หมอพาย กล่าวว่า ตนเองซื้อกระเป๋าใบดังกล่าวมาจากอังกฤษเมื่อ 4 ปีก่อน ในราคาเงิน 1.7 แสนบาท หลังประกาศขายกระเป๋า 4 ถึง 5 วัน ได้มีผู้ส่งอีเมลติดต่อกลับมา ว่าสนใจจะซื้อกระเป๋า และได้โอนเงินผ่านระบบเพย์แพล (PayPal) หรือระบบการชำระเงินหรือสินค้า

ออนไลน์ และอ้างว่าชำระเงินส่วนต่างเกินมาประมาณ 500 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 19,000 บาท เพื่อเป็นค่าจัดส่ง ต่อมาอีเมลยืนยันว่า มีผู้โอนเงินเข้ามาในระบบเพย์แพล (PayPal) หรือระบบการชำระเงินหรือสินค้าออนไลน์ และอ้างว่าชำระเงินส่วนต่างเกินมาประมาณ 500 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 19,000 บาท เพื่อเป็นค่าจัดส่ง ต่อมาอี

เมลยืนยันว่า มีผู้โอนเงินเข้ามาในระบบเพย์แพลจริง แต่จะต้องโอนอีก 800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 30,000 บาท เพื่อเป็นค่าประกันความเสียหายของกระเป๋า






หมอพาย กล่าวต่อว่า ตนหลงเชื่อโอนเงินไปทั้งสองครั้ง และสังเกตพบความผิดปกติ เนื่องจากมีอีเมลฉบับที่สามส่งมา อ้างตัวว่าเป็นประธานของเพย์แพล ให้โอนเงินอีกกว่า 6,000 ดอลลาร์ เพื่อเป็นวงเงินขั้นต่ำที่ต้องมีหมุนเวียนในการทำธุรกรรมผ่านระบบเพย์แพล จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก จากการรวบรวมข้อมูลเชื่อว่า ผู้ที่ติดต่อขอ

ซื้อกระเป๋า และผู้ที่อ้างเป็นผู้บริหารของเพย์แพล เป็นแก๊งมิจฉาชีพ มีการปลอมเว็บไซต์อย่างแนบเนียน และทำเป็นขบวนการ จึงฝากเตือนผู้ที่จะซื้อขายสินค้าควรตรวจสอบไปยังต้นทางของบริษัทด้วยตัวเอง ไม่หลงเชื่ออีเมลที่อาจมีผู้ปลอมขึ้นมาใช้เพื่อแอบอ้าง จึงเดินทางมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่หลอกซื้อกระเป๋าดักล่าว และจะได้ให้ประชาชนทั่วไปทราบ และไม่หลงตกเป็นเหยื่อแบบตนเองอีก สำหรับพ.ต.อ.นพ.ปิยพงษ์ หรือ หมอพาย หมอชื่อดังรายนี้ เคยเป็นแพทย์นิติเวชวิทยาผ่าพิสูจน์ศพนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เหยื่อที่ถูกอุ้มฆ่าเอาศพไปฝังทิ้งที่ จ.พัทลุง เมื่อปี พ.ศ.2556 เคยเขียนหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊กขายดีชื่อ “หมอเจ็บ” ซึ่งเคยถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์มาแล้ว และ มี.ค.2553 เคยร้องสื่อฯ กรณีถูกย้ายจากสถาบันนิติเวชอย่างไม่เป็นธรรม ก่อนถูกย้ายลงช่วยราชการที่ภาคใต้โดยที่ไม่เต็มใจ

ต่อมา ต.ค.2558 เคยแจ้งความตำรวจ สภ.ดอยสะเก็ด ภ.จ.เชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับ เป๊ก-สัณชัย เองตระกูล ไฮโซหนุ่ม สามีอดีตนักแสดงสาวชื่อดัง “ธัญญ่า-ธัญญาเรศ”ที่เมาแล้วใช้มือตบหน้า.


อ้างอิงจาก : http://www.thairath.co.th/content/674278


ความคิดเห็นที่มีต่อข่าว : ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์และผู้ประกอบการขาย เพราะถึงแม้ว่าเว็บไซต์จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ผู้ประกอบการนั้นเราไม่อาจทราบจุดประสงค์ของบุคคลคนนั้นได้ ควรตรวจสอบจากรีวิวของสินค้า คอมเม้นต์การรับสินค้า การรับรองความปลอดภัยของเว็บไซต์และผู้ประกอบการ







วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 4


ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์


1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ 
          โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน 

2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล 
          การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม

3. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน 

รายงานรายละเอียดที่ต้องระบุ
ชื่อโครงงานทำอะไร กับใคร เพื่ออะไร
ประเภทโครงงานวิเคราะห์จากลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้
ชื่อผู้จัดทำโครงงานผู้รับผิดชอบโครงงาน อาจเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มก็ได้
ครูที่ปรึกษาโครงงานครู-อาจารย์ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และควบคุมการทำโครงงานของนักเรียน
ครูที่ปรึกษาร่วมครู-อาจารย์ผู้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาร่วม ให้คำแนะนำในการทำโครงงานของนัีกเรียน
ระยะเวลาดำเนินงานระยะเวลาการดำเนินงานโครงงาน ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด กำหนดเป็นวัน หรือ เดือนก็ได้
แนวคิด ที่มา และความสำคัญสภาพปัจจุบันที่เป็นความต้องการและความคาดหวังที่จะเกิดผล
วัตถุประสงค์สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดโครงงานทั้งในเชิงกระบวนการ และผลผลิต
หลักการและทฤษฎี  หลักการและทฤษฎีที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน
วิธีดำเนินงาน กิจกรรมหรือขั้นตอนการดำเนินงาน เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และผู้ัรับผิดชอบ
ขั้นตอนการปฏิบัติ  วัน เวลา และกิจกรรมดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุด
ผลที่คาดว่าจะได้รับ สภาพของผลที่ต้องการให้เกิด ทั้งที่เป็นผลผลิต กระบวนการ และผลกระทบ
เอกสารอ้างอิงสื่อเอกสาร ข้อมูลที่ได้จากแหล่งต่างๆ ที่นำมาใช้ในการดำเนินงาน

 4. การลงมือทำโครงงาน 


  4.1 การเตรียมการ
          การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างทำโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
     4.2 การลงมือพัฒนา
          1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทำให้ผลงานดีขึ้น
          2. จัดระบบการทำงานโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทำ ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
          3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน 
     4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข
          การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทำงานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ ที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทำด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย 
     4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
          เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทำโครงงาน และทำการอภิปรายผลด้วย เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนำหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
     4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
          เมื่อทำโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้  


5. การเขียนรายงาน 

          การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี้

5.1 ส่วนนำ 

5.2 บทนำ 

5.3 หลักการและทฤษฎี 

5.4 วิธีดำเนินการ 

5.5 ผลการศึกษา 

 5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ 

  5.7 ประโยชน์ 

 5.8 บรรณานุกรม 

 5.9 การจัดทำคู่มือการใช้งาน 

6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน 


ใบงานที่ 3

ตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์



โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)

     เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
     โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ


สื่อเพื่อการศึกษา โปรแกรมบทเรียน
  เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน โดยอสร้างเป็นโปรแกรมบทเรียน หรือบทเรียนออนไลน์ ที่อาจมีแบบฝึกหัดหรือคำถามเพื่อทดสอบ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อประกอบการเรียนการสอนในเนื้อหาวิชาต่าง ๆ เช่น บทเรียนออนไลน์เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ บทเรียนออนไลน์เรื่องชุดกล่องสมองกล หนังสือเรียนอิเล็กทรอนิกส์เรื่องสำนวนสุภาษิต






วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 3

ประเภทโครงงาน    

   
แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่
๑. โครงงานตามสาระการเรียนรู้   เป็นการใช้บูรณาการร่วมกับการเรียนรู้ ทักษะและเป็นพื้นฐานในการกำหนดโครงงานและปฏิบัติ
๒. โครงงานตามความสนใจ เป็นโครงงานที่ผู้เรียนกำหนดขั้นตอน ความถนัด ความสนใจ ความต้องการ โดยใช้ทักษะความรู้ จากกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆมาบูรณาการเป็นโครงงานและปฏิบัติ
สามารถแบ่งได้ 4 รูปแบบ ตามวัตถุประสงค์
1. โครงงานที่เป็นการสำรวจ รวบรวมข้อมูล
2. โครงงานที่เป็นการค้นคว้า ทดลอง
3. โครงงานที่เป็นการศึกษาทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดใหม่ๆ
4. โครงงานที่เป็นการประดิษฐ์ คิดค้น
  • โครงงานที่เป็นการสำรวจ รวบรวมข้อมูล 
โครงงานประเภทนี้ เป็นโครงงานที่มีวัตถุประสงค์ในการรวบรวมข้อมูล เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วนำข้อมูล นั้นมาจำแนกเป็นหมวดหมู่ ในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึก เป็นต้น
  • โครงงานที่เป็นการค้นคว้า ทดลอง
เป็นโครงงานที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ โดยออกแบบในรูปผลการทดลอง เพื่อศึกษาตัวแปรหนึ่ง จะมีผลต่อตัวแปรที่ต้องการศึกษาอย่างไร ด้วยการควบคุมตัวแปร
  • โครงงานที่เป็นการศึกษาทฤษฎี หลักการ หรือแนวคิดใหม่ๆ 
เป็นโครงงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอความรู้ หรือหลักการใหม่ๆ เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ยังไม่มีใครเคยคิดหรือขัดแย้ง หรือขยายจากของเดิมที่มีอยู่ ซึ่งต้องผ่านการพิสูจน์อย่างมีหลักการก่อน
  • โครงงานที่เป็นการประดิษฐ์ คิดค้น 
เป็นโครงงานที่มีวัตถุประสงค์ คือ การนำความรู้ทฤษฎี หลักการ มาประยุกต์ใช้ โดยประดิษฐ์เป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆ เพื่อประโยชน์ต่างๆ หรืออาจเป็นการประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ หรือปรับปรุงของเดิมให้ดีขึ้นก็ได้

https://www.gotoknow.org/posts/305516%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%F0%9F%98%AD


ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์



  1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media Development) คือ การดัดแปลงความรู้ที่อยู่ในหนังสือให้ออกมาในรูปแบบของวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหว เสียง หรือ ห้องสมุดอิเลคทรอนิกส์ โดยใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการผลิตสิ่งเหล่านี้ เช่น สื่อมัลติมีเดียเรื่องระบบหมุนเวียนโลหิตและเส้นเลือดสำคัญของร่างกาย
  2. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) คือ การผลิต สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ หรือ พัฒนาจากของเดิม โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสร้างขึ้นมา ให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริงๆ  โดยอาจมีการลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลก่อน เช่น การสร้างโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์หาย โปรแกรมตรวจสอบสภาพจราจร
  3. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) คือโครงการที่มีเกมเป็นตัวดำเนินเรื่อง แต่จะเน้นไปในทางเกมที่สอดแทรกความรู้ไว้ภายใน  มีการฝึกคิดฝึกทำ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่มักจะชอบออกแบบโครงการประเภทนี้มากที่สุด เช่น โครงงานเกมซุโดกุ เกมกาแลคซี่ให้โชค
  4. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) คือ การออกแบบซอฟแวร์เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับอาชีพหรือสิ่งของต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น โปรแกรมผสมสีและออกแบบบ้าน หรือโปรแกรม Doramon Browser สำหรับผู้พิการทางมือ
  5. โครงงานจำลองทฤษฏี (Theory Simulation) คือ การจำลองเหตุการณ์หรือทฤษฏีต่างๆอธิบายเป็นภาพโดยใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้าง โดยต้องอาศัยความรู้เฉพาะทาง เช่น การจำลองวิถีกระสุนที่ยิงจากตึกสูง หรือ การจำลองทฤษฏีรวมโมเลกุล

 


ประโยชน์ของโครงงาน

  1. 1.ได้รับความสุข/สนุกกับการทำงาน
  2. 2.ได้ทำงานตามความถนัด  และความสนใจของตนเอง
  3. 3.ได้รู้จักวิธีแสวงหาความรู้/ข้อมูล/การเรียนรู้
  4. 4.ได้ฝึกทักษะกระบวนการทำงานด้วยตนเอง หรือร่วมทำงานเป็นกลุ่ม
  5. 5.ได้ฝึกความกล้าในการแสดงออกและกล้าคิด

  6. https://sites.google.com/site/krutermsaksuwan/home/keiyw-kab-khru-teim-sakdi/khwam-ru-reuxng/khwam-hmay-khxng-khorng-ngan/prayochn-khxng-khorng-ngan

วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ใบงานที่ 1


บงานที่ 1

โครงงาน

หมายถึง กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าและลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตามความสามารถ ความถนัด และความสนใจ โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการอื่นใดไปใช้ในการศึกษาหาคำตอบในเรื่องนั้นๆ โดยมีครูผู้สอนคอยกระตุ้นแนะนำและให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเลือกหัวข้อที่จะศึกษา ค้นคว้า ดำเนินการ วางแผน กำหนดขั้นตอนการดำเนินงาน โดยทั่วๆ ไป การทำโครงงานสามารถทำได้ทุกระดับการศึกษา ซึ่งอาจทำเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงงาน อาจเป็นโครงงานเล็กๆ ที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนหรือเป็นโครงงานใหญ่ที่มีความยากและซับซ้อนขึ้นก็ได้ 

http://thaigoodview.com/node/42043

โครงงานคอมพิวเตอร์

        คือ กิจกรรมการเรียนรู้ที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ  โดยจะต้องวางแผนการดำเนินงาน  ศึกษา  พัฒนา  โปรแกรม  โดยไขความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์  เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องตลอดจนทักษะในการพัฒนา

http://www.slideshare.net/kanlayaann/ss-9318162


ตัวอย่างเว็บไซต์โครงงาน 

1.โครงงานวิทยาศาสตร์ (น้ำยาเช็ดกระจกจากดอกอัญชันและมะกรูด)



2.โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง สเปรย์สมุนไพรปรับอากาศ


3.โครงงานวิทยาศาสตร์เปลือกไข่ไล่มด

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Display Card ( การ์ดแสดงผล )




                             Display Card ( การ์ดแสดงผล )


    การ์ดแสดงผลใช้สำหรับเก็บข้อมูลที่ได้รับมาจากซีพียู โดยที่การ์ดบางรุ่นสามารถประมวลผลได้ในตัวการ์ด ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระการประมวลผลให้ซีพียู จึงทำให้การทำงานของคอมพิวเตอร์นั้นเร็วขึ้นด้วย ซึ่งตัวการ์ดแสดงผลนั้นจะมีหน่วยความจำในตัวของมันเอง ถ้าตัวการ์ดมีหน่วยความจำมาก ก็จะรับข้อมูลจากซีพียูได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพมีความเร็วสูงขึ้นด้วย 






     หลักกันทำงานพื้นฐานของการ์ดแสดงผลจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อโปรแกรมต่างๆ ส่งข้อมูลมาประมวลผลที่ ซีพียูเมื่อซีพียูประมวลผล เสร็จแล้ว ก็จะส่งข้อมูลที่จะนำมาแสดงผลบนจอภาพมาที่การ์ดแสดงผล จากนั้น การ์ดแสดงผล ก็จะส่งข้อมูลนี้มาที่จอภาพ ตามข้อมูลที่ได้รับมา การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาส่วนใหญ่ ก็จะมีวงจร ในการเร่งความเร็วการแสดงผลภาพสามมิติ และมีหน่วยความจำมาให้มากพอสมควร

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

My Profile

My Profile


Ketsirin  Tepwicha
My Brith Day : 10 October 1998
My favorist color : Red

And I love Simon Van Meervenne,Only one.